ตร.ปิดคดี ไม่เกี่ยวการเมือง บัญชีรายชื่อ เด็กหญิง 8 ขวบฉีก

ตำรวจปิดคดีฉีกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติ ที่จังหวัดกำแพงเพชร พบเป็นเด็กหญิงอายุ 8 ขวบ กระโดดฉีกเล่นกันไปตามประสา ซึ่งบริเวณติดบัญชีรายชื่อเป็นที่วิ่งเล่นของเด็กทั้งสองเป็นประจำทุกวัน โดยมีบ้านอยู่ด้านหลังโรงเรียนที่เด็กทั้งสองเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 2 เป็นเพื่อนสนิทที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันวันที่ 19 กรกฎาคม 2559 เวลา 09.00 น.ที่สถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ได้ติดตามคดีบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติ หน่วยที่ 5 ภายในโรงเรียนวชิรสารศึกษา หมู่ที่ 5  บ้านเหนือ ตำบลสลกบาตร อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ฉีกขาดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2559 จากการสืบสวนในเบื้องต้น โดยมี พ.ต.อ.อิทธิ ชำนาญหมอผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรขาณุวรลักษบุรี นายสุวิทย์ สันตติวงศ์ไชย นายอำเภอขาณุวรลักษบุรี  พ.ท.ชนการ แสงศร ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 14 พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ธีรศรัญยานนท์ สารวัตรหัวหน้าตำรวจสันติบาลกำแพงเพชร พ.ต.ท.ถวัลย์ หาไชย รองผู้กำกับสืบสวนภูธรจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าหน้าที่ทหาร ชุดสืบสวนภูธรขาณุวรลักษบุรี นายประวิทย์ ทองสารผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5โดยวันเกิดเหตุมีพิธีอุปสมบทวัดหงษ์ทองภายในพื้นที่เดียวกันกับโรงเรียนและอาคารหน่วยออกเสียงประชามติ ซึ่งมีทั้งคนเมา เด็กและเยาวชนพล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่าคดีนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้ความสนใจกับคดีนี้เป็นพิเศษและได้กำชับให้ทำการสืบสวนคดีให้กระจ่างชัด ปรากฏข้อเท็จจริงโดยเร็ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหน่วยออกเสียงประชามติหน่วยที่ 5 พบว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงนั้นถูกฉีกขาดและนำไปทิ้งไว้ที่ข้างศาลาตั้งกระดานติดบัญชีรายชื่อผู้มีเสียงออกสิทธิ์จากการสืบสวนพบว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติที่ฉีกขาด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง เกิดจากความซุกซนของเด็กหญิง 2 คนอายุเพียง 8 ขวบไปวิ่งเล่นกันที่บริเวณกระดานติดรายชื่อ จากรูปคดีได้ทำการสืบสวนอย่างครบถ้วนแล้วพบว่าเด็กไม่ทราบว่ามีความสำคัญอย่างไร จึงได้วิ่งเล่นซุกซนไปตามวัยของเด็กทั้งสองคน และได้กระทำการไปโดยไม่ทราบว่าเป็น บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติ และเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานบุคคลทั้งผู้ใหญ่และเด็ก พยานวัตถุ ภาพจากกล้องวงจรปิด และจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบผลของคดีนี้ต่อไปสำหรับบรรยากาศของการสอบสวนก็เป็นไปอย่างสบายๆ ยิ้มแย้ม เด็กก็เดินเล่นในห้องสอบสวนกันตามปกติ ไม่ตึงเครียด ไม่ได้สร้างความกดดันให้กับเด็กและผู้ปกครอง โดยมีผู้ปกครองของเด็ก เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมรับฟังการบันทึกถ้อยคำของพนักงานสอบสวน และเด็กหญิงทั้งสองที่เป็นผู้ก่อเหตุอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ได้ให้การเล่าถึงเหตุการณ์ที่เข้าในเขตติดตั้งบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติ หน่วยที่ 5 ภายในโรงเรียนวชิรสารศึกษา ว่าก่อนเกิดเหตุภายในวัดมีงานบวชพระ และบ้านของเด็กทั้งสองก็อยู่หลังโรงเรียนไม่ไกลจากกันมากนัก และยังเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมปีที่ 2 อายุ 8 ขวบ และเป็นเพื่อนสนิทเรียนอยู่ห้องเดียว โดยจะมาเล่นกันที่บริเวณนี้กันเป็นประจำทุกวัน และหลังจากเจ้าหน้าที่ได้นำบัญชีรายชื่อมาติดตั้งเสร็จก็กลับไปในเวลา 11.30 น.ของวันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคาม 2559 เด็กทั้งสองคนได้ขึ้นไปวิ่งเล่นบนอาคารศาลา โดยมีเด็กอื่นอยู่ด้วย ทั้งสองคนสะดุดตากระดาษสีชมที่ติดบัญชีรายชื่อ จะปรึกษากันว่าจะเล่นกันยังไง โดยไม่ทราบว่าเป็นบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติ จากนั้นได้ตรงไปที่แผ่นกระดานแล้วต่างก็กระโดดเอื้อมมือไปคว้ากระดาษจนฉีกขาดตกลงมาเกลื่อนพื้น ก่อนที่จะช่วยกันเก็บเศษกระดาษไปกองทิ้งไว้ที่ข้างศาลาพอเล่นกันจนเหนื่อยต่างก็กลับบ้านกันไป จนเจ้าหน้าที่มาพบดังกล่าวจากเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 14 สถานี 11 อำเภอภายในจังหวัดกำแพงเพชร ได้จัดชุดสายตรวจป้องกันและรักษาความสงบเรียนร้อยในพื้นที่ และหน่วยออกเสียงประชามติในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันความเสียหายอย่างเข้มงวด

อย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวผู้กระทำความผิดยังเป็นเด็กที่ก่อเหตุโดยไม่มีความเจตนาและอายุยังไม่ถึง 10 ขวบตามที่ก็หมายกำหนด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีไปตามกฎหมายแม้จะมีความผิดแต่เด็กก็ไม่ต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนด