เกษตรตัวอย่าง เรียนรู้พอเพียง ต่อยอดชุมชนหินดาต

น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง

ตามรอยพ่อ เศรษฐกิจพอเพียง 

สร้างรายได้ให้ครอบครัวต่อยอดสู่ชุมชนแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงประจำตำบลหินดาต ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 78 หมู่ที่ 6 บ้านหนองหิน ตำบลหินดาต อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นพื้นที่ของนายเฉลา เงินคำ เจ้าของพื้นที่รวมกว่า 22 ไร่ ซึ่งลุงเฉลาได้เล่าให้ฟังว่าแต่เดิมเป็นคนจังหวัดพิษณุโลกย้ายมาอยู่จังหวัดกำแพงเพชรเมื่อปี 2520 ก็มาเริ่มทำเกษตรทฤษฏีใหม่หลังจากไปศึกษาดูงานตามโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมก็เลยนำแนวทางของพระองค์ท่านมาปรับใช้ในครอบครับ ที่ห้วยห้องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่รู้สึกประทับใจมากที่สุดแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมกลับมาทำสวนผสมผสานเพื่อพระองค์ท่าน ผมทำเป็นสวนแบบผสมผสานมีกิจกรรมหลายอย่างที่ผมทำมีการเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ทำถ่าน ปลูกผลไม้ ทำนาข้าว ทำผักกางมุ้งก็เลยเป็นรายได้ให้กับครอบครัว ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการกับพระองค์ท่าน ครอบครัวผมก็มีชีวิตที่ดีขึ้นจนกระทั้งทุกวันนี้ ต่อมาทางกศน.ก็มาให้ผมเป็นแปลงเรียนรู้ของอำเภอปางศิลาทอง ผมก็รู้สึกซาบซึ้งกับหน่วยงานตรงนี้ ผมพร้อมที่จะให้แรงสนับสนุนตรงนี้ ตลอดไปเพื่อลูกหลานของผมในอนาคตภายหน้าครับ ซึ่งขณะนี้ก็ได้ลูกสาวนางชลธิชา วรนาม ที่ได้ดำเนินการและต่อยอดให้นางชลธิชา วรนาม กล่าวว่าจากที่พ่อได้ทำเศรษฐกิจพอเพียงมา มีความรักที่จะสานต่อจากพ่อ คือพ่อได้ทำโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ในพ.ศ. 2542 ได้ขุดสระหนึ่งลูกเนื้อที่น้ำประมาณ 3 ไร่ ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่เราสามารถจะดำเนินการทำกิจกรรมต่างๆในพื้นที่ของเราได้ จากเนื้อที่ 22 ไร่เราได้จัดสรรพื้นที่ออกเป็น 4 ประเภทด้วยกันคือ 1ที่อยู่อาศัย 10 เปอร์เช็นต์ 2 แหล่งน้ำ 30 เปอร์เช็นต์ 3 พื้นที่นา 30 เปอร์เช็นต์ และ 4 ไร่นาสวนผสมทั้งหมด 30 เปอร์เช็นต์ ปลูกเป็นต้นไม้ยืนต้นเช่นต้นไผ่ มะม่วง กระท้อน มะนาว และกล้วย เป็นพืชที่อยู่ในพื้นที่ของเราทั้งหมดนอกจากการทำเกษตรแบบผสมผสานแล้ว เรายังมีพื้นที่ที่เหลือเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลาในกระชัง เป็นอาหารของเราก่อนที่ได้เริ่มทำ และมูลของสัตว์ นำมาทำปุ๋ยหมักแทนปุ๋ยเคมี ละยังนำมูลสุกรมาทำแก๊ชชีวภาพแทนแก๊ช ที่จะลดรายจ่ายในครัวเรือนของเราได้อีก นอกจากนี้ยังทำเตาเผาถ่านน้ำส้มควันไม้ซึ่งใช้ไม้จากการแต่กิ่งในสวนของเราในแต่ละปี พอเก็บผลผลิตเสร็จเราก็จะตัดแต่งกิ่งไม้ในพื้นที่ของเราเอามาเผาถ่านใช้ในครัวเรือนหรือจำหน่ายให้ตลาดในชุมชน และเรายังได้น้ำส้มควันไม้ที่จะทำเป็นสารไล่แมลง หรือเป็นสารเพื่อเปิดตากิ่งไม้ จากการที่เราทำเศรษฐกิจพอเพียงเราสามารถไม่ใช้สารเคมีได้ด้วยการที่เราใช้ต้นกล้วยที่ปลูกในพื้นที่มาทำเป็นจุลินทรีย์กล้วยเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของพืชโดยไม่ใช้สารเคมี และยังใช้ไข่ไก่นำมาทำฮอร์โมนไข่ เราจะใช้ประโยชน์วัตถุดิบในพื้นที่ทั้งหมด นอกจากนี้ยังทำจุลินทรีย์ปลวกที่ทำขบวนการหมักมาย่อยสลายฟางเพราะที่นี่เราจะไม่เผาฟางในนาข้าว แต่จะใช้จุลินทรีย์ปลวกที่หมักกับข้าวสุกแล้วนำไปฉีดในแปลงนาในแต่ละครั้งแต่ละรอบที่ทำนาของปี สำหรับหน่วยงานที่มาสนับสนุนเราเริ่มแรกก็จะเป็นของสปก.จังหวัดกำแพงเพชร มาสนับสนุนครั้งแรกเป็นการทำผักปลอดสารเคมีโดยการทำมุ้งให้หนึ่งหลัง งบประมาณถ้าทำเองจะต้องเสียค่าตรวจดินตรวดน้ำประมาณ 70,000 บาท แต่ก็ได้รับการสนับมาศูนย์แห่งนี้ และได้จัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ของสปก.ประจำอำเภอปางศิลาทอง จะมีงบสนับสนุนให้ปีละ 5,000 บาท นอกจากนี้ กศน.อำเภอปางศิลาทอง ยังได้นำนักศึกษาเข้ามาดูเรื่องการตอนกิ่งไม้ การทำน้ำหมักชีวภาพ หรือการทำเตาน้ำส้มควันไม้ เข้ามาทุกปี นอกจากนี้ยังได้เข้ามาสนับสนุนงบประมาณโครงการส่งเสริมอาชีพให้กับศูนย์เรียนรู้นี้ด้วยในปี 2557 กลุ่มทำไม้กวาด โดยให้กลุ่มมีรายได้เพิ่มนอกจากภาคเกษตร คือการทำไม้กวาด ในปี 2557 ได้ผลิตไม้กวาดส่งให้กับเครือข่ายโอท๊อป ตลาดในชุมชน โรงสี ในอำเภอปางศิลาทอง ได้ยอดเงินประมาณ 160,000 บาท ในในปี 2558 ได้ของบประมาณกลุ่มทอเสื่อกก ซึ่งจริงๆชาวบ้านก็ได้ปลูกกกและทอกันของตัวเองอยู่แล้ว แต่เป็นการทอแบบธรรมดาที่ใช้สองคนทอ เราได้ไปศึกษาดูงานจากต่างจังหวัด จึงมีแนวทางเราอยากจะได้ลายใหม่ขึ้นมาก็เลยก็ทำโครงการขึ้นไปที่ กศน. ก็ได้งบประมาณซื้อฟืมมาให้เรามาทำเป็นลายใหม่ ทางกลุ่มก็มีแนวคิดว่าถ้าทำเสื่ออย่างเดียวมันก็มีการขายกันทั่วไปเราก็เลยจะแปรรูปเป็นกระเป๋าสตางค์ กระเป๋าใส่เสื้อผ้าเป็นการต่อยอดของเสื่อกกนี้อีก/กำจร  หัดไทย กศน.กำแพงเพชร รายงาน