ป้าสุขายหวย ขับรถชนต้นไม้เสียชีวิต คาดเบาหวานโรคกำเริบ
แม่ค้าสลาก โรคประตัวกำเริบ เสียการควบคุม รถชนต้นไม้ข้างทางพลิกหลา ยตลบ เสียชีวิต
วันที่ 5 พฤษภาคม 2559 เวลา 12:00 น. 1000 พ.ต.ต.ณัฐวุฒิ สิงพาสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชรได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพลิกคว่ำจึงเดินทางไปตรวจสอบที่ถนนสายกำแพงเพชรคลองสมบูรณ์ หมู่ที่1 ตำบลวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชรที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะมิตซูบิชิสีแดง หมายเลขทะเบียน บฉ 4118กำแพงเพชร พลิกคว่ำหลายท้องชี้ฟ้าอยู่ที่ข้างต้นไม้ใหญ่และมีต้นกอไผ่ปกคลุม 
สภาพรถพังยับเยินเสียหายทั้งคันและมีศพของผู้ขับขี่กระเด็นออกมานอกรถอยู่ที่บริเวณใต้ฝากระโปรงรถยนต์ ภายหลังทราบว่าชื่อนางพิมพ์วิไล เปรมบุญอายุ 57 ปีอยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ที่4 ตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร กระเด็นออกมาเสียชีวิตที่นอกรถสภาพศพกระดูกหักหลายส่วนและมีแผลเปิดที่บริเวณศีรษะ นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตอยู่ในรถเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่จำนวนมาก และเก้าอี้นั่ง แผงสำหรับจำหน่ายสลากกินแบ่ง
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนผู้ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นแม่ค้าจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วยกันให้การว่าผู้เสียชีวิตได้ขับรถยนต์กระบะคันที่ประสบอุบัติเหตุเดินทางไปจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ตลาดหมอสมบูรณ์ ระหว่างทางที่ขับขี่รถจะกลับบ้านโดยมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกำแพงเพชร รถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้เสียหลักข้ามเลนไปทางขวา จนได้ตกถนนไปชนกับต้นไม้ใหญ่ที่ริมทางก่อนที่รถจะพลิกคว่ำหลาย ตลบ ร่างของผู้เสียชีวิต ถูกแรงเหวี่ยงกระเด็นออกมาเสียชีวิตที่นอกรถดังกล่าว
ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนบุตรสาวของผู้เสียชีวิต ทราบว่าผู้ชีวิตนั้นมีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน คาดว่าระหว่างทางผู้เสียชีวิตอาจจะมีอาการกำเริบจากโรคประจำตัว จนไม่สามารถที่จะควบคุมรถได้จึงทำให้รถเสียหลักประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว
สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นมีชื่อเล่นว่าป้าสุ ปกติก็จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ที่แผงหน้าธนาคารกรุงไทยสาขากำแพงเพชร เป็นคนอัธยาศัยดี วันนี้ได้ออกไปจำหน่ายสลากกินแบ่งที่ตลาดหมอสมบูรณ์เพียงคนเดียวโดยบอกบุตรสาวว่าวันนี้ไม่ต้องไปด้วย และก็มาเคราะห์ร้ายประสบอุบัติเหตุอย่างไม่คาดฝัน
ภายหลังตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้ว พนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้อาสาสมัครกู้ภัยสมาคมข่าวภาพ นำศพส่งนิติเวชโรงพยาบาลกำแพงเพชรให้แพทย์ชันสูตรสาเหตุอีกครั้ง
